เมนู

บทว่า ตสฺสาหํ ธมฺมํ สุตฺวาน ความว่า เราฟังสัจธรรม 4 นั้น
อันพระองค์ทรงยกขึ้นแสดงเอง (ไม่ทั่วไปแก่ผู้อื่น) ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้พุทธเจ้าพระองค์นั้น.
บทว่า วิหาสึ สนฺติเก ความว่า เราถูกมิจฉาวิตกรบกวนแล้วใน
ป่าอัมพวัน (กลับ ) ไปยังจาลิกาวิหาร พักอยู่ในที่ใกล้พระบรมศาสดานั่นแล.
บทว่า สโต แปลว่า มีสติ. อธิบายว่า ไม่ประมาทแล้วด้วยการ
เจริญสมถะและวิปัสสนา.
บทว่า อหํ นี้ พึงเปลี่ยนเป็น มยา เพิ่มเข้าในบทว่า วิชฺชา
อนุปฺปตฺตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ
วิชชา 3 อันเราบรรลุแล้ว คำสอน
ของพระพุทธเจ้าอันเรากระทำแล้วดังนี้ เหมือนบทว่า มํ ที่ต้องเพิ่มเข้าใน
บทว่า อนุสาสิ นี้. พระเถระประกาศการบรรลุวิชชา 3 ตามที่กล่าวแล้ว
ด้วยบทว่า กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ โดยแสดงถึงความที่พระศาสดาทรงให้
โอวาท ด้วยปุริยายอื่น. อธิบายว่า การบำเพ็ญให้บริบูรณ์ในกองศีลเป็นต้น
นั่นแล ข้าพเจ้ากระทำแล้วตามคำสอนของพระศาสดา.
จบอรรถกถาเมฆิยเถรคาถา

7. เอกธัมมสวนียเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระเอกธัมมสวนียเถระ


[204] ได้ยินว่า พระเอกธัมมสวนียเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
กิเลสทั้งหลาย เราเผาแล้ว ภพทั้งปวงเราถอน
ขึ้นแล้ว ชาติสงสารของเราสิ้นไปแล้ว บัดนี้ภพใหม่
มิได้มีต่อไป.

อรรถกถาเอกธัมมสวนียเถรคาถา


คาถาของท่านพระเอกธัมมสวนียเถระ เริ่มต้นว่า กิเลสา ฌาปิตา
มยฺหํ.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ
ท่านเกิดเป็นรุกขเทวดา เห็นภิกษุ 2-3 รูป หลงทางเดินเที่ยวไปในป่าใหญ่
เมื่อจะอนุเคราะห์ จึงลงจากภพของตน ปลอบโยนภิกษุเหล่านั้น ให้ฉัน
แล้วพาไปส่งจนถึงที่ตามที่ประสงค์ ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปใน
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า กัสสปะ
เสด็จอุบัติขึ้นในโลก บำเพ็ญพุทธกิจเสร็จแล้ว ปรินิพพาน ได้ (เกิด) เป็น
พระเจ้ากรุงพาราณสี ทรงพระนามว่า กิกี ในกาลนั้น.
เมื่อท้าวเธอสวรรคตแล้ว พระราชโอรสของพระองค์ ทรงพระนามว่า
ปุถุวินทราช ได้เสวยราชย์ต่อมา. พระราชโอรสของพระเจ้าปุถุวินทราช ทรง-
พระนามว่า สุยามะ (เสวยราชย์ต่อมา) พระราชโอรสของพระเจ้าสุยามะ ทรง-
พระนามว่า พระเจ้ากิกีพรหมทัต เสวยราชย์ เมื่อพระศาสนาอันตรธานแล้ว
ไม่ได้ฟังพระธรรมเทศนา จึงรับสั่งให้ประกาศว่า ผู้ใดแสดงธรรมได้ เราจัก
ให้ทรัพย์แสนกหาปณะแก่ผู้นั้น เมื่อหาผู้แสดงธรรมไม่ได้ แม้แต่คนเดียว
จึงทรงพระดำริว่า ในรัชสมัยแห่งพระเจ้าปู่เป็นต้นของเรา ธรรมยังเป็นไปอยู่
ผู้แสดงธรรมก็หาได้ง่าย แต่ในกาลบัดนี้ ผู้ที่จะกล่าวคาถาแม้เพียง 4 บาท
ก็หาได้ยาก ตราบใดที่ธรรมสัญญายังไม่พินาศ ตราบนั้นเราจักบวช ดังนี้.
ท้าวสักกเทวราช เสด็จลงมาแล้วแสดงธรรมโดยคาถาว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ ดังนี้ กะพระเจ้ากิกีพรหมทัต ผู้เดินทางมุ่งหน้า